รีวิว FTMO ฉบับสมบูรณ์: คู่มือสำหรับเทรดเดอร์หน้าใหม่สู่การเทรดด้วยเงินทุนจริง

ในโลกแห่งการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) และผลิตภัณฑ์อ้างอิง (CFD) ที่ทุกคนต่างแข่งขันกันอย่างดุเดือด การเข้าถึงทุนจำนวนมากจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดว่าผู้ประกอบการรายใดจะประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน FTMO หรือ “เอฟทีเอ็มโอ” ได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทจัดหาเงินทุนสำหรับเทรดเดอร์ (Prop Firm) ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีทักษะด้านการเทรดสามารถพิสูจน์ความสามารถของตนเองและได้รับอนุญาตให้ซื้อขายด้วยเงินทุนจริงจากบริษัท โดยไม่ต้องใช้เงินส่วนตัวมากนัก บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกทุกแง่มุมของ FTMO ตั้งแต่แนวทางการทำงาน ขั้นตอนการสอบผ่าน จิตวิทยาการเทรด ประเด็นความน่าเชื่อถือ ไปจนถึงกระบวนการถอนกำไร เพื่อให้คุณมีข้อมูลครบถ้วนในการตัดสินใจอย่างรอบคอบก่อนก้าวเข้าสู่สนามทุนจริง

FTMO คืออะไร? เรียนรู้กลไกการทำงานของบริษัทจัดหาเงินทุน

FTMO ย่อมาจาก Forex Trading Mentoring Organization ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2014 และตั้งอยู่ที่กรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเช็ก บริษัทนี้ทำหน้าที่เหมือนกองทุนให้โอกาสเทรดเดอร์ มันไม่ใช่โบรกเกอร์ทั่วไป แต่เป็นบริษัทที่ให้ทุนกับเทรดเดอร์โดยตรงภายใต้เงื่อนไขที่ชัดเจน

แนวคิดหลักของ FTMO คือการคัดกรองผู้เทรดที่มีวินัย มีระบบบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดี และสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง จากนั้นบริษัทจะมอบเงินทุนให้ผู้ที่ผ่านกระบวนการทดสอบได้ เพื่อให้พวกเขาซื้อขายในตลาดการเงินอย่างอิสระ โดยทั้งสองฝ่ายแบ่งปันผลกำไรตามสัดส่วนที่ตกลงกันไว้ ตัวอย่างเช่น 80% สำหรับเทรดเดอร์ และ 20% สำหรับ FTMO หรือแม้แต่สูงถึง 90/10 สำหรับผู้ที่ทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องในระยะยาว

การเทรดสามารถทำได้ในหลากหลายตลาด ไม่ว่าจะเป็น Forex เช่น EUR/USD, ดัชนีหุ้น เช่น S&P500, สินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองคำหรือน้ำมัน รวมถึงคริปโทเคอร์เรนซีในบางกรณี โดยทั้งหมดดำเนินการผ่านแพลตฟอร์ม MT4 หรือ MT5 ให้ความรู้สึกเหมือนเทรดบัญชีจริงเป๊ะๆ

ขั้นตอนการทดสอบ: จาก Challenge ไปสู่ Verification คุณต้องรู้อะไรบ้าง

การจะเดินเข้าสู่โลกของ FTMO ได้ คุณต้องผ่านการทดสอบสองขั้นตอนหลัก นั่นคือ FTMO Challenge และ Verification กระบวนการนี้ถูกออกแบบมาไม่ใช่เพื่อจำกัดคน แต่เพื่อคัดกรอง “นักเทรดที่มีระบบ” จริงๆ เท่านั้น

FTMO Challenge – ด่านแรกของการพิสูจน์ตัว

Challenge คือด่านเริ่มต้นที่เข้มงวดที่สุด และถือเป็นสิ่งท้าทายที่สำคัญที่สุดในทุกขั้นตอน คุณต้องแสดงให้เห็นว่าคุณสามารถทำกำไรได้ภายใต้ข้อจำกัดที่ชัดเจน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้:

• เป้าหมายกำไร (Profit Target): โดยทั่วไปอยู่ที่ 10% ของเงินทุนเริ่มต้น เช่น บัญชี $10,000 ต้องทำกำไร $1,000
• ขาดทุนสูงสุดต่อวัน (Maximum Daily Loss): ไม่สามารถขาดทุนเกิน 5% ต่อวันได้ หากวันใดขาดทุนถึง 5% วันนั้นจะต้องหยุดเทรดทันที
• ขาดทุนรวมสูงสุด (Maximum Loss): ไม่สามารถถอนเงินทุนเกิน 10% ของเงินทุนเริ่มต้นได้ตลอดการทดสอบ
• จำนวนวันเทรดอย่างน้อย: ต้องเทรดอย่างน้อย 4 วันทำการ ไม่สามารถทำกำไรในวันเดียวแล้วปิดบัญชีได้
• เวลาในการทำกำไร: จะมีเวลาจำกัด เช่น 30 วัน หากไม่ทำกำไรตามเป้าหมายภายในเวลาที่กำหนด ถือว่าไม่ผ่าน

FTMO มีหลายประเภทบัญชีให้เลือก:

– **Normal Account**: เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ทำ Day Trading และต้องปิดออร์เดอร์ภายในวัน ไม่สามารถถือสถานะข้ามคืนได้
– **Aggressive Account**: เป้าหมายกำไรอาจเหมือนกัน แต่อนุญาตให้รับความเสี่ยงได้มากขึ้น โดยมีขีดจำกัดการขาดทุนที่ยืดหยุ่นกว่า
– **Swing Account**: เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่เน้นถือตำแหน่งข้ามวัน ข้ามสุดสัปดาห์ หรือแม้แต่ช่วงข่าวสำคัญ โดยมีกฎที่ผ่อนคลายกว่าบัญชีปกติ

Verification – การยืนยันความต่อเนื่องของกำไร

เมื่อผ่าน Challenge ได้ คุณจะเข้าสู่ขั้นตอน Verification ซึ่งเหมือนเป็น “การตรวจสอบว่าความสำเร็จก่อนหน้าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ” โดยมีข้อกำหนดลดลงเล็กน้อย:

• เป้าหมายกำไร: เหลือประมาณครึ่งหนึ่งของ Challenge เช่น 5%
• ขีดจำกัดการขาดทุน: ยังคงเดิมที่ 5% ต่อวัน และ 10% รวมตลอดการทดสอบ
• จำนวนวันเทรดต่ำสุด: ยังต้องเทรดอย่างน้อย 4 วัน
• เวลาในการทำกำไร: มักให้เวลามากกว่า Challenge เล็กน้อย เช่น 60 วัน

สำคัญที่สุดคือ ค่าธรรมเนียมที่คุณจ่ายไปตอนสมัคร FTMO Challenge จะได้รับคืนทั้งหมดเมื่อคุณผ่าน Verification และถอนกำไรครั้งแรก นี่คือหนึ่งในข้อดีใหญ่ที่ช่วยลดต้นทุนในระยะยาวสำหรับผู้ที่สามารถสำเร็จได้

FTMO หลอกเงินหรือไม่จริง? ความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือเป็นอย่างไร

นี่คือคำถามที่ผู้เริ่มต้นหลายคนมักคาดหวังคำตอบมากที่สุด: “FTMO อะไรงี้ ต้องโอนเงินเข้าไปก่อน มันจะโดนเวียนหลอกนกไหม?”

หากพิจารณาจากข้อมูลจริงและเสียงรีวิวจากผู้ใช้งานทั่วโลก เราขอสรุปได้ว่า **FTMO ไม่ใช่การหลอกลวง** บริษัทนี้มีประวัติการดำเนินงานมายาวนานกว่าทศวรรษ ได้แจงข้อมูลอย่างโปร่งใส และมีรีวิวจากผู้ใช้จริงที่สูงลิ่วจากแหล่งข้อมูลอิสระ

การกำกับดูแลและรางวัลที่ได้รับ

ต้องยอมรับว่า Prop Firm ส่วนใหญ่ รวมถึง FTMO ไม่ได้รับการกำกับโดยหน่วยงานควบคุมด้านการเงินหลักเช่น FCA, ASIC หรือ SEC เนื่องจากพวกเขาไม่ได้รับฝากเงินจากลูกค้าโดยตรง แต่เป็น “บริษัทใน” ที่ใช้เงินทุนภายในองค์กร จึงไม่อยู่ในขอบเขตของกฎระเบียบเหล่านี้

แต่สิ่งที่ FTMO มีอย่างเด่นคือ “ความโปร่งใส” และ “ชื่อเสียง” โดยพวกเขาเคยได้รับรางวัล **Deloitte Technology Fast 50 CE** ถึง 2 ปีซ้อน (2021 และ 2022) ซึ่งเป็นเกียรติในด้านการเติบโตของเทคโนโลยีระดับภูมิภาคยุโรปกลาง

รีวิวจากผู้ใช้จริง: Trustpilot บอกอะไร

เว็บไซต์ Trustpilot ถือเป็นหนึ่งในแหล่งตรวจสอบคุณภาพที่เชื่อถือได้ที่สุด ปัจจุบัน FTMO มีคะแนนเฉลี่ยที่ **4.9 จาก 5 ดาว** จากผู้รีวิวกว่า 20,000 คน ส่วนใหญ่ชื่นชมในการให้บริการลูกค้าอย่างรวดเร็ว พื้นที่การเรียนรู้ที่ดี และก้าวหน้าที่สุดคือ การจ่ายเงินที่ตรงเวลา ไม่มีกรณีถอนเงินแล้วไม่ได้

ส่วนรีวิวด้านลบมักมาจากผู้ใช้ที่ไม่ผ่านด่าน Challenge แล้วรู้สึกไม่พอใจ หรือไม่เข้าใจกติกา เช่น การจำผิดว่าเพิ่งเข้าเซสชันเช้าวันจันทร์ก็พอ แต่จริงๆ ตลาดเกิด Gap และทำให้ขาดทุนเกิน 5% ทันที อย่างไรก็ตาม เสียงส่วนใหญ่มีแต่ภาพรวมเชิงบวก

กรณี “PipsPRO” นี่จริงหรือกุข่าว

มักมีข่าวลือในโลกออนไลน์เกี่ยวกับ PipsPRO หรือบุคคลที่อ้างว่า “แฮกเข้าระบบ FTMO” ได้ หรือ “รับสอนผ่านร้อยเปอร์เซ็นต์” ซึ่ง FTMO ได้ออกแถลงการณ์ชัดเจนว่า สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็น **กลโกงจากบุคคลที่สาม** และพวกเขาไม่เกี่ยวข้องทุกกรณี การซื้อ EAs หรือคอร์สรับประกันผ่านก็มักเป็นการหลอกให้เสียเงินฟรี เพราะ FTMO ไม่อนุญาตให้ใช้ซอฟต์แวร์ที่โกง หรือโปรแกรมที่กดปิดคำสั่งแอตโนมัติในนาทีสุดท้าย

ข้อดีและข้อเสียของ FTMO ที่นักเทรดควรรู้ก่อนเริ่ม

ไม่มีสิ่งใดในโลกการเงินที่ดีเพอร์เฟกต์ ทุกทางเลือกย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย FTMO ก็เช่นเดียวกัน

ข้อดีที่คุณได้รับ

• ได้ใช้เงินทุนจริงจำนวนมาก: คุณสามารถเทรดด้วยทุน $100,000 หรือแม้แต่ $200,000 โดยแค่จ่ายค่าประเมินครั้งเดียว ไม่ต้องมีเงินสดจำนวนมาก
• แบ่งกำไรสูง: เริ่มต้น 80% และยิ่งทำผลงานดี ก็ยิ่งได้เพิ่มเป็น 90% ได้
• ระบบจัดการความเสี่ยงที่บังคับวินัย: ขีดจำกัด Daily Loss และ Max Loss ช่วยให้คุณไม่ไปเกินพอดี ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความอยู่รอดในตลาด
• เครื่องมือวิเคราะห์ที่ดี เช่น Account MetriX: ติดตามประสิทธิภาพการเทรด ดู drawdown, win rate, risk-reward และอื่นๆ ได้อย่างละเอียด
• ไม่ต้องรับความเสี่ยงด้วยเงินส่วนตัว: หากคุณขาดทุนเกิดขีดจำกัด FTMO จะรับความเสียหายแทนทั้งหมด

ข้อเสียที่ควรระวัง

• กฎระเบียบที่เข้มงวด: ห้ามถือสถานะข้ามคืนในบัญชีปกติ ห้าม Scalping หนักๆ หรือ Trade ช่วงข่าวในหลายเคส – อาจไปไม่ทันกลยุทธ์คุณ
• ความกดดันทางจิตใจสูง: การเทรดด้วยเงินคนอื่น และต้องรักษากฎมากมาย อาจทำให้ตื่นเต้นและตัดสินใจด้วยอารมณ์
• เสียค่าธรรมเนียมก่อนเริ่ม: หากไม่ผ่าน คุณจะต้องเสียเงินไป แล้วเริ่มใหม่ด้วยค่าใช้จ่ายเท่าเดิม
• ไม่มีการสนับสนุนเป็นภาษาไทย: ทุกการสนับสนุน รวมถึงเว็บไซต์ เป็นภาษาอังกฤษ หากภาษาอ่อน อาจมีอุปสรรค
• ความเสี่ยงจากอุตสาหกรรม Prop Firm โดยรวม: มีบริษัทอื่นล้มเหลวแล้วเช่น Funding Talent หรือ MyForexFunds ซึ่งทำให้ต้องเลือกบริษัทที่มีชื่อเสียงจริงๆ

ใครเหมาะกับ FTMO? รูปแบบนักเทรดที่จะประสบความสำเร็จ

FTMO ไม่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะตัวเทรดที่ขาดแผนการ หรือชอบ Action ตามอารมณ์ นี่คือคุณสมบัติของ “นักเทรดที่เหมาะกับ FTMO”:

ต้องมีคุณลักษณะเหล่านี้

• มีสติ และวินัยสูงในการจัดการความเสี่ยง: หยุดทันทีเมื่อขาดทุน 5% ได้อย่างเด็ดขาด
• มีแผนเทรดที่ชัดเจน: ไม่ใช่การเดา หรือแทงสูง-ต่ำ แต่ใช้ระบบการจัดการออร์เดอร์ที่ผ่านการทดสอบ
• เคยทำกำไรในบัญชีทดลองมาแล้วอย่างต่อเนื่อง: แสดงให้เห็นว่าคุณไม่ใช่ผู้เริ่มต้น
• รับมือความกดดันได้ดี: ไม่ panic หรือ revenge trade เมื่อพลาด
• สามารถประยุกต์เข้ากับกฎของ FTMO ได้: เข้าใจข้อจำกัดและปรับกลยุทธ์ให้พอดี

จิตวิทยาที่ต้องฝึกก่อนเข้า Challenge

• อย่าคิดว่า “สมมุติ”: แม้จะใช้บัญชี Demo แต่ลองคิดว่าเงินนั้นจริง และผลเสียจะกระทบต่อหนี้ หรือยศถาบรรดาศักดิ์
• ปิดอีโมชัน: กลัว โลภ หรืออีโก้ เป็นศัตรูหนักที่สุดใน Challenge
• ดูที่การรักษาเงินก่อนกำไร: ถึงจะทำกำไรได้ แต่ถ้าทิ้งให้ Max Loss เกิด คุณก็แพ้
• ใช้กลยุทธ์ที่คุณรู้จักดีที่สุด: อย่าลองใช้ระบบใหม่ในช่วงที่กดดันขนาดนี้
• พิจารณาวิธี re-take อย่างปลอดภัย: หากใกล้จะละเมิด Max Loss แต่ยังไม่เกิน ให้ยอมปล่อยให้หมดเวลา และซื้อ Challenge ใหม่ แทนที่จะฝืนเดินต่อ

กลยุทธ์สำหรับแต่ละประเภทบัญชี

• Normal Account: เหมาะกับ Day Trader ที่เน้นช่วงเปิดตลาดลอนดอนฯ, นิวยอร์ก หรือญี่ปุ่น ต้องสามารถปิดออร์เดอร์ก่อนปิดตลาด
• Swing Account: เหมาะกับผู้ที่รู้ว่าตลาดเกิด Gap และมีการบริหารความเสี่ยงระยะกลาง-ยาว เป็นอย่างดี

กับดักที่ทำให้คนล้มเหลวบ่อยๆ

• พยายามกู้คืนจากการขาดทุนในวันเดียว: พอขาดทุน 5% ก็รู้สึกเสียดาย แล้วดันเพิ่ม Lot ขึ้นมาเพื่อทำกำไรกลับเร็วๆ
• สะสม Loss แบบไม่ทันระวัง: เสียเล็กน้อยทีละนิด จนรวมถึง 10% โดยไม่รู้ตัว
• เทรดช้าเกินไป: หวังผลิตรายได้ช้า+ระมัดระวังสูง จนเลยเวลา 30 วันไปแล้ว ยังไม่ถึง 10%

ทางออกคือฝึกเทรดในเงื่อนไขจริงตั้งแต่แรก และถามตัวเอง “ถ้าเป็นเงินจริงจริงๆ ฉันจะทำแบบนี้ไหม?”

การถอนเงินจาก FTMO ได้จริงไหม? เปิดกลไกการรับรายได้

คำถามที่ทุกคนสงสัย: “ได้กำไรแล้ว เงินออกไหม?” คำตอบของ FTMO คือ “ออกจากแน่นอน” และผู้ใช้หลายพันคนยืนยันแล้วว่าพวกเขาได้รับเงินจริง

วิธีการถอนเงิน

• บัญชีธนาคาร (Bank Wire): วิธีมาตรฐานที่สุด ใช้เวลา 1-5 วันทำการ ขึ้นอยู่กับธนาคารปลายทาง
• คริปโทเคอร์เรนซี: เช่น USDT, BTC ซึ่งเด่นเรื่องความเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ ยิ่งในประเทศที่ธนาคารช้า
• Skull / Neteller: ใช้ได้ในบางภูมิภาคและถือเป็นอีกทางเลือกที่รวดเร็ว

กำไรจะถูกถอนได้ทันทีเมื่อผ่าน Verification ค่าธรรมเนียมที่คุณจ่ายไปจะถูกเติมกลับมาให้ 100% พร้อมกับรายได้ก้อนแรก

สิ่งที่ควรระวังในช่วงถอน

• ตรวจสอบข้อมูลการถอนให้ถูกต้องทุกตัวอักษร: เลขบัญชี หรือที่อยู่ Wallet แม้แค่จุดผิด ก็อาจทำให้ต้องเสียค่าธรรมเนียมซ้ำ
• ห้ามละเมิดกฎในบัญชีจริง: หากตรวจพบการใช้ซอฟต์แวร์ต้องห้ามหรือการโอนคิวรีรีย์ (Cloning) กำไรทั้งหมดอาจถูกระงับ
• ธรรมเนียมและภาษีในประเทศของคุณ: บางประเทศต้องเสียภาษีรายได้จากเทรด online ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

หากมีปัญหา ตลอด 24 ชั่วโมง FTMO มีทีมสนับสนุนที่ตอบไวและเข้าใจในสถิติ คุณสามารถติดต่อพวกเขาผ่าน Help Center ได้ทันที

FTMO ดีกว่า Prop Firm อื่นๆ ไหม? เปรียบเทียบทางเลือกดีๆ

FTMO คือ “ผู้นำตลาด” แต่ก็มีคู่แข่งที่น่าสนใจอีกหลายราย การเทียบเคียงช่วยให้คุณเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะกับสไตล์คุณที่สุด

คู่แข่งหลักที่ควรรู้จัก

• FundedNext: มีชื่อเรื่องสัดส่วนกำไร 80-90% และมีรูปแบบ Challenge ที่หลายรูป
• The Funded Trader (TFT): ให้การทดสอบหลายรอบ ผ่อนคลายเรื่องการถือสถานะข้ามคืน
• SurgeTrader: มีกฎที่เปิดรับ Scalping และ News Trading มากกว่า แต่ค่าใช้จ่ายสูง
• MyForexFunds (ปิดแล้ว): เคยดังมาก แต่ปิดตัวแพ้ปัญหาเรื่องมาตรฐาน – เป็นบทเรียนว่าต้องดูชื่อเสียง

ปัจจัยในการเลือก Prop Firm

• สัดส่วนแบ่งกำไร
• ความยากของ Challenge (เป้ากำไร / ขีดจำกัด Loss)
• ค่าเข้าร่วมและเงื่อนไขการคืนเงิน
• อนุญาตให้ถือสถานะข้ามคืนไหม
• อนุญาตให้ใช้ EA ไหม
• สนับสนุนภาษา / ความเร็วในการตอบกลับ
• รีวิวและคะแนนจากแหล่งภายนอก

กลยุทธ์ขั้นสูง: การจัดการหลายบัญชีและใช้ EA อย่างปลอดภัย

เมื่อคุณผ่านบัญชีแรกแล้ว FTMO อนุญาตให้คุณผ่าน Challenge เพิ่มได้อีกเพื่อเพิ่มทุนรวม

การใช้หลายบัญชี

คุณสามารถสมัครเพื่อผ่าน Challenge สำหรับบัญชี 2, 3 หรือมากกว่านั้นได้ และแต่ละบัญชีจะได้รับทุนแยกกัน ช่วยกระจายความเสี่ยงและเพิ่มศักยภาพกำไรรวม อย่างไรก็ตาม FTMO มีข้อห้ามชัดเจนเรื่อง **การคัดลอกการเทรดระหว่างบัญชี (Copy Trading)** หากตรวจพบว่า Trading Pattern เหมือนกันทุกประการ อาจถูกระงับบัญชีได้

การใช้ EA (Expert Advisor) และ Trade Copier

FTMO อนุญาตให้ใช้ EA ได้ แต่ต้องไม่ใช้ในรูปแบบ Arbitrage หรือ Tick Scalping ที่อาจดูเป็นการโกง แน่นอนว่า EA ต้องไม่ใช้ Hidden Orders หรือคำสั่งปิดอัตโนมัติที่ไม่โปร่งใส

สำหรับ Trade Copier สามารถใช้เพื่อคัดลอกออร์เดอร์จากบัญชีคุณเองไปยังบัญชีคุณเองได้ แต่ต้องไม่ทำให้สองบัญชีมีพฤติกรรมซ้ำกันอย่างสมบูรณ์ วิธีแก้คือ ใช้ Parameters ต่างกัน หรือตั้ง Wait Time เล็กน้อย เพื่อกันข้อผิดพลาด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ FTMO (FTMO 常見問題)

สรุป

FTMO คือประตูบานใหญ่ที่เปิดโอกาสให้เทรดเดอร์ทั่วโลกได้เข้าถึงทุนจำนวนมหาศาล แม้จะไม่มีเงินเริ่มต้นมาก การผ่านทั้ง Challenge และ Verification ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากคุณมีทั้งระบบการเทรดที่ชัดเจน วินัยที่แข็งแกร่ง และการรับมือกับความกดดันได้ดี ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกล

จุดเด่นที่สำคัญคือ บริษัทนี้จ่ายเงินได้จริง มีผู้ใช้งานจริงยืนยัน และมีประสิทธิภาพการทำงานสูง คุณไม่ต้องกลัวว่าจะ “ได้กำไรแต่ถอนไม่ออก”

เคล็ดลับสุดท้ายคือ: อย่าเพิ่งเร่งซื้อ Challenge ทันที ใช้ FTMO Free Trial ฝึกฝนให้ชินกับกติกา เข้าใจจังหวะและจิตวิทยาของการแข่งขัน และกลับมาลงมือจริงด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม ความสำเร็จรอคุณอยู่ข้างหลังประตูบานนั้นแล้ว

อ้างอิง:

FTMO Official Website – Scaling Plan

FTMO Official Website – About Us