
TXID คืออะไร คู่มือการตรวจสอบรหัสธุรกรรมเบื้องต้น
เมื่อคุณทำธุรกรรมคริปโตเคอเรนซี เช่น การโอนบิตคอยน์จากกระเป๋าเงินไปยังอีกที่หนึ่ง สิ่งหนึ่งที่คุณจะได้รับทันทีหลังการดำเนินการคือ รหัสธุรกรรม หรือที่เรียกว่า TXID (Transaction ID) ซึ่งทำหน้าที่เสมือน “ใบเสร็จรับเงินดิจิทัล” ที่ยืนยันว่าการทำธุรกรรมนั้นเกิดขึ้นจริงและบันทึกไว้ในบล็อกเชนแล้ว

บทความนี้จะอธิบายให้คุณเข้าใจว่า TXID คืออะไร หน้าที่ของมันในระบบบล็อกเชนคืออะไร และวิธีการตรวจสอบหรือค้นหารหัสนี้ได้อย่างไร ไม่ว่าคุณจะใช้บริการผ่านกระดานซื้อขาย (Exchange) หรือกระเป๋าเงินส่วนตัวก็ตาม
TXID คืออะไร?
TXID หรือ Transaction ID เป็นชุดตัวอักษรและตัวเลขยาว 64 หลัก ที่ประกอบด้วยเลขฐานสิบหก (Hexadecimal) ซึ่งสร้างขึ้นโดยระบบการเข้ารหัส (Hashing) จากข้อมูลของธุรกรรมนั้น ๆ เช่น ที่อยู่ผู้ส่ง ที่อยู่ผู้รับ จำนวนเงิน และค่าธรรมเนียม โดยแต่ละธุรกรรมจะมี TXID เฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำกับธุรกรรมใด ๆ อีกเลย
คุณสามารถเปรียบเทียบ TXID ได้กับหมายเลขติดตามพัสดุ เช่น เวลาสั่งของออนไลน์ คุณจะได้รับเลขพัสดุเพื่อใช้ตรวจสอบสถานะการจัดส่ง ในทำนองเดียวกัน การมี TXID ช่วยให้คุณสามารถติดตามการโอนคริปโตได้ว่า อยู่ในขั้นตอนใดแล้ว สำเร็จหรือยัง และถูกยืนยันโดยเครือข่ายหรือยัง
หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดนี้ อ่านได้ที่ ID ธุรกรรม (TXID) คืออะไร – Binance TH Academy
โครงสร้างของ TXID
TXID มาจากการนำข้อมูลธุรกรรมทั้งหมดมาเข้ารหัสผ่านอัลกอริทึม SHA-256 สองรอบ (Double SHA-256) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ปลอดภัยและย้อนกลับไม่ได้ หมายความว่าคุณไม่สามารถถอดรหัส TXID กลับเป็นข้อมูลต้นฉบับได้โดยง่าย
ตัวอย่าง TXID:
abc123def4567890abc123def4567890abc123def4567890abc123def4567890
คุณสามารถคัดลอกรหัสนี้ไปวางใน blockchair.com หรือ blockchain.com เพื่อดูรายละเอียดของการทำธุรกรรมได้ทันที
เหตุใด TXID จึงสำคัญ?
TXID มีบทบาทสำคัญในระบบเครือข่ายบล็อกเชนหลายประการ:
- ความโปร่งใส: ทุกคนสามารถตรวจสอบธุรกรรมได้ผ่านบล็อกเอ็กซ์พลอเรอร์ (Blockchain Explorer) ด้วย TXID
- การยืนยันความถูกต้อง: เจ้าหน้าที่บริการ หรือผู้รับเงิน สามารถใช้ TXID เพื่อยืนยันว่าธุรกรรมนั้นดำเนินการจริง
- การแก้ปัญหา: หากธุรกรรมล่าช้าหรือไม่สำเร็จ คุณสามารถนำ TXID ไปแจ้งทีมสนับสนุนเพื่อให้ช่วยตรวจสอบ
- การป้องกันการปลอมแปลง: เนื่องจาก TXID เปลี่ยนแปลงได้ทันทีหากข้อมูลใด ๆ เปลี่ยนแม้เพียงนิด จึงไม่สามารถแก้ไขธุรกรรมที่ทำแล้วได้

วิธีค้นหารหัส TXID จากกระดานซื้อขาย (Exchange)
หากคุณโอนคริปโตผ่านเว็บไซต์ซื้อขาย เช่น Binance, Bitkub หรือ Upbit การค้นหา TXID ทำได้ง่ายเพียงไม่กี่ขั้นตอน
- เข้าสู่บัญชีผู้ใช้ในกระดานซื้อขาย
- ไปที่ “ประวัติธุรกรรม” หรือ “ประวัติการถอนเงิน” (Transaction History / Withdrawal History)
- ค้นหาธุรกรรมที่ต้องการ
- คลิก “ดูรายละเอียด” หรือไอคอนรูปตา/ลูกศร
- คุณจะเห็นฟิลด์ที่เขียนว่า “Hash”, “TXID” หรือ “รหัสธุรกรรม”
- คัดลอกรหัสนั้นและนำไปตรวจสอบได้ทันที
คู่มือจาก Binance อธิบายขั้นตอนนี้อย่างละเอียด ดูเพิ่มเติมได้ที่ วิธีค้นหารหัสธุรกรรม (TxID) – Binance TH Support
วิธีตรวจสอบ TXID จากกระเป๋าเงินส่วนตัว (Wallet)
หากคุณใช้กระเป๋าเงินแบบไม่ผ่านศูนย์กลาง (เช่น Ledger, Trust Wallet หรือ Electrum) การดู TXID ก็ทำได้เช่นกัน
- เปิดแอปพลิเคชันกระเป๋าเงิน
- ไปที่หน้า “ประวัติธุรกรรม” (Transaction History)
- แตะที่ธุรกรรมที่ต้องการ
- รายละเอียดจะแสดง TXID, ที่อยู่, จำนวน, และจำนวนครั้งที่ได้รับการยืนยัน (Confirmations)
- คุณสามารถแตะที่ TXID เพื่อเปิดในบล็อกเอ็กซ์พลอเรอร์โดยตรง (ถ้าแอปรองรับ)
กรณีของ Ledger แนะนำให้ใช้ Blockchair หรือ Blockchain.com ในการตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งช่วยให้เห็นข้อมูลโดยละเอียด เช่น ค่าธรรมเนียม, ขนาดธุรกรรม, และสถานะการขุดในบล็อก
TXID เกี่ยวข้องกับ SegWit และ Transaction Malleability อย่างไร?
ในอดีต บิตคอยน์เผชิญปัญหาที่เรียกว่า Transaction Malleability หรือ “ความไม่แน่นอนของธุรกรรม” ซึ่งหมายถึง ผู้โจมตีสามารถดัดแปลงลายเซ็นดิจิทัลของธุรกรรมก่อนที่จะถูกขุด จนทำให้ TXID เปลี่ยนแปลงได้ แม้ธุรกรรมยังไม่เสร็จสิ้น ส่งผลให้ระบบตรวจสอบลำดับธุรกรรมผิดพลาด
เพื่อแก้ปัญหานี้ นักพัฒนาจึงออกแบบ Segregated Witness (SegWit) หรือ “การแยกลายเซ็น” ขึ้นในปี 2017 โดยการย้ายข้อมูลลายเซ็นออกจากโครงสร้างหลักของธุรกรรม ไปไว้ในส่วนแยก ทำให้ TXID ไม่สามารถถูกเปลี่ยนแปลงได้อีก
ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ใช่แค่แก้ปัญหา transaction malleability เท่านั้น แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่าย ลดค่าธรรมเนียม และรองรับการพัฒนาเทคโนโลยีเช่น Lightning Network
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ SegWit ได้ที่ Segregated Witness (SegWit): Definition – Investopedia
วิธีใช้ TXID กับบล็อกเอ็กซ์พลอเรอร์
การตรวจสอบ TXID ผ่านบล็อกเอ็กซ์พลอเรอร์เป็นวิธีที่แม่นยำที่สุด วิธีใช้งานมีดังนี้:
- เปิดเว็บไซต์ เช่น blockchair.com หรือ blockchain.com
- วาง TXID ลงในช่องค้นหา
- กด “Search”
คุณจะได้ข้อมูลครบถ้วน เช่น:
- วันที่และเวลาทำธุรกรรม
- จำนวนบิตคอยน์ที่โอน
- ค่าธรรมเนียมเครือข่าย
- ที่อยู่ผู้ส่งและผู้รับ
- จำนวน Confirmations
- บล็อกที่ธุรกรรมถูกขุด
- สถานะ (สำเร็จ / รอดำเนินการ / ถูกปฏิเสธ)
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
แต่ละธุรกรรมมี TXID เดียวหรือไม่?
ใช่ ทุกธุรกรรมในเครือข่ายบล็อกเชนจะมี TXID เฉพาะตัวเพียงหนึ่งเดียว ไม่มีการซ้ำกัน
TXID ใช้ตรวจสอบธุรกรรมได้นานแค่ไหน?
ตลอดไป เนื่องจากบล็อกเชนเป็นข้อมูลถาวร คุณสามารถตรวจสอบ TXID ได้ทุกเมื่อ แม้จะผ่านมาหลายปี
TXID ต่างจาก Hash ของบล็อกอย่างไร?
TXID เป็นแฮชของ “ธุรกรรม” ส่วน Hash ของบล็อกคือรหัสเฉพาะของ “บล็อก” ที่รวมธุรกรรมหลายรายการไว้ด้วยกัน
หากพิมพ์ TXID ผิดจะเกิดอะไรขึ้น?
หากพิมพ์ผิดเพียงตัวเดียว ระบบจะไม่สามารถค้นหาธุรกรรมได้ เพราะ TXID ต้องตรงกันทุกตัวอักษร แนะนำให้คัดลอกด้วยคำสั่ง Copy-Paste เสมอ
จะรู้ได้อย่างไรว่าธุรกรรมสำเร็จ?
หากมีจำนวน Confirmations ตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้รับ) และสถานะไม่ใช่ “Unconfirmed” แสดงว่าธุรกรรมนั้นสำเร็จสมบูรณ์