
กลโกง Forex: คู่มือฉบับสมบูรณ์เพื่อทำความเข้าใจ ป้องกัน และรับมือกับการฉ้อโกงการลงทุน

ตลาดการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า Forex ได้กลายมาเป็นหนึ่งในช่องทางการลงทุนที่ได้รับความสนใจสูงสุดในยุคดิจิทัล ด้วยข้อเสนอผลตอบแทนที่ดูน่าดึงดูดและสามารถดำเนินการได้จากทุกที่ทุกเวลา แต่ในทางกลับกัน ตลาดที่มีปริมาณการซื้อขายรายวันสูงถึงกว่า 6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐนี้ กลับกลายเป็นสนามล่าเหยื่อที่มิจฉาชีพใช้เป็นแหล่งหากินอย่างสะดวก กลโกงในรูปแบบต่างๆ ถูกปั้นแต่งขึ้นอย่างแนบเนียน จนทำให้คนจำนวนมากต้องสูญเสียเงินก้อนโตไปแบบไม่ทันตั้งตัว โดยเฉพาะในไทย ที่ความเข้าใจเรื่องการลงทุนยังมีไม่เพียงพอ และการตรวจสอบผู้ให้บริการยังไม่ครอบคลุม ผู้ลงทุนจึงอยู่ในความเสี่ยงสูง บทความนี้จะพาคุณเข้าใจทุกมุมของกลโกง Forex แนวทางป้องกัน และขั้นตอนเมื่อตกเป็นเหยื่อ เพื่อให้คุณสามารถเดินทางในโลกการเงินได้อย่างมั่นคง
เข้าใจกลโกง Forex ให้ถ่องแท้: ภัยที่มาพร้อมโอกาส
กลโกง Forex คืออะไร? รู้จักศัตรูที่ซ่อนตัวดี
กลโกง Forex คือการกระทำของบุคคลหรือกลุ่มผู้ที่ใช้ช่องว่างทางกฎหมาย เทคโนโลยี และจิตวิทยามนุษย์เพื่อลวงให้ผู้ลงทุนเชื่อว่าสามารถทำกำไรได้จากตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราอย่างมั่นคงและร่ำรวย แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงกลเกมที่ออกแบบมาเพื่อขโมยเงิน โดยอาจใช้วิธีสัญญาผลตอบแทนที่สูงเกินจริง ปลอมแปลงผลการซื้อขาย หรือสร้างแพลตฟอร์มลงทุนปลอมขึ้นมา ความซับซ้อนของตลาดและการขาดความรู้ของผู้เริ่มต้น เป็น “หน้าต่าง” ให้เหล่ามิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาได้อย่างไร้รอย
เหตุใดกลโกง Forex ถึงระบาดในปัจจุบัน?
ความนิยมของตลาด Forex ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของผลตอบแทนเท่านั้น แต่ยังมาจากโครงสร้างตลาดที่เอื้อให้เกิดการฉ้อโกงได้ง่าย ปัจจัยเหล่านี้คือต้นเหตุของการระบาด:
- ตลาดเปิดตลอด 24 ชั่วโมง: หมายถึงโอกาสในการติดต่อเหยื่อและปลุกปั่นความโลภไม่เคยหยุดนิ่ง
- เข้าถึงง่าย แม้ไม่มีความรู้: การเปิดพอร์ตเพียงไม่กี่คลิก ทำให้มือใหม่หลงเชื่อว่า “ทำเงินง่าย” โดยไม่ต้องเรียนรู้
- สังคมต้องการความมั่งคั่งเร็ว: วัฒนธรรม “อยากรวยโดยไม่ต้องเหนื่อย” ถูกใช้เป็นสัญญาณเตือนใจให้เข้าสู่กับดัก
- เทคโนโลยีช่วยหลอกได้ดีขึ้น: เว็บไซต์ดีไซน์ทันสมัย แอปพลิเคชันที่เลียนแบบจริง ทำให้แยกแยะยาก

กลโกง Forex รูปแบบยอดนิยมที่คุณต้องระมัดระวัง
ยอมรับผลตอบแทนล่อตา หนทางสู่โครงการ Ponzi
หนึ่งในกลยุทธ์ที่ใช้บ่อยที่สุด คือ การโฆษณาผลตอบแทนที่สูงเกินจริง เช่น “ได้กำไร 5% ต่อสัปดาห์” หรือ “ทุน 1 หมื่น กลายเป็น 1 แสนใน 3 เดือน” ซึ่งในทางปฏิบัติแล้วเป็นไปไม่ได้ในตลาดที่มีการวิเคราะห์อย่างถูกต้อง ผู้ฉ้อโกงมักจ่ายผลตอบแทนให้คนกลุ่มแรกด้วยเงินของคนกลุ่มใหม่ เพื่อสร้างภาพว่า “ได้ผลจริง” — นี่คือลักษณะของ โครงการ Ponzi ที่จะล่มทันทีที่ไม่มีนักลงทุนรายใหม่มาคอยปั๊มเงินให้
บริการบริหารพอร์ตและคัดลอกการซื้อขาย: จ้างคนเก่ง แต่ไม่มีอยู่จริง
โฆษณาที่ว่า “ปล่อยให้เราจัดการบัญชีคุณ” หรือ “ติดตามสัญญาณซื้อขายจากผู้เชี่ยวชาญ” ฟังดูสะดวกสบาย แต่เบื้องหลังอาจเป็นเพียงบัญชีเปล่าหรือการซื้อขายที่ตั้งไว้ให้ “ขาดทุน” ทุกครั้ง โดยผู้ให้บริการอาจคิดค่าธรรมเนียมรายเดือน หรือแบ่งกำไรตามเปอร์เซ็นต์ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาคือเงินต้นหายเกลี้ยงและไม่สามารถติดต่อได้อีก
หลอกเหยื่อด้วยแอปและเว็บไซต์เทรดปลอม
แพลตฟอร์ม Forex ปลอมถูกสร้างขึ้นมาอย่างมีระบบ ดูคล้ายกับ MetaTrader หรือเว็บไซต์โบรกเกอร์จริง มีกราฟราคา ยอดเงินในบัญชี และประวัติการซื้อขาย แต่ทุกอย่างเป็นเพียงภาพลวงตา ข้อมูลเหล่านี้ถูกควบคุมจากผู้ดูแลระบบ ซึ่งสามารถปรับให้เหยื่อ “เห็นกำไร” แล้วขัดขวางการถอนเงินในที่สุด หน่วยงานในไทยเคยจับกุมเครือข่ายที่ใช้ แอปพลิเคชัน MetaTrader ปลอม เพื่อหลอกชาวไทยและต่างชาติให้ลงทุนผ่านทางโซเชียลมีเดีย ผลลัพธ์คือผู้เสียหายกว่าหลายร้อยราย และความเสียหายรวมหลายสิบล้านบาท
โจรรักพรางตัว: ใช้สื่อสังคมและแอปหาคู่จับเหยื่อ
กลโกงแบบ Romance Scam หรือที่เรียกกันในชื่อ “Pig Butchering Scam” (การเชือดหมู) เป็นรูปแบบที่ชั่วร้ายที่สุด ผู้กระทำจะสร้างโปรไฟล์ปลอมบน Facebook, Instagram หรือแอปอย่าง Tinder เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับเหยื่อระยะเวลานานหลายสัปดาห์ จนเกิดความสนิทสนม จากนั้นจะค่อยๆ แนะนำการลงทุนใน Forex ด้วยการอ้างว่ามี “แหล่งข้อมูลข้างใน” หรือได้กำไรมาแล้ว ความไว้วางใจที่พัฒนาขึ้นมานั้นกลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ผู้เสียหายยอมโอนเงินจำนวนมากโดยไม่ลังเล
เมื่อถึงเวลาถอนเงิน: ข้ออ้างเต็มไปหมด
เมื่อคุณ “ได้กำไร” จากแพลตฟอร์มปลอม และต้องการถอนเงิน คุณจะพบกับข้ออ้างนับไม่ถ้วน เช่น “ต้องเสียภาษีก่อนถึงจะถอนได้” “บัญชีของคุณต้องทำยอดซื้อขายเพิ่ม” หรือ “ระบบมีปัญหาชั่วคราว” ตามมาด้วยการเรียกเก็บ “ค่าธรรมเนียมพิเศษ” เพื่อปลดล็อกบัญชี สิ่งที่ควรรู้คือ ถ้าแพลตฟอร์มต้องการให้คุณจ่ายเงินเพิ่มเพื่อถอนเงินตัวเอง — นั่นคือ **ธงแดงชัดเจน** ว่าทุกอย่างเป็นการหลอกลวง
บิดเบือนราคาและควบคุมสเปรด
แพลตฟอร์มที่ไม่โปร่งใสสามารถบิดเบือนราคาการซื้อขาย ทำให้คำสั่งของคุณโดนเติมราคา (slippage) หรือเรียกสเปรด (spread) ที่สูงเกินจริง แม้จะดูเหมือนเล็กน้อย แต่ในระยะยาว ความต่างของราคาเหล่านี้จะค่อยๆ กินเงินลูกค้าจนหมดบัญชี โดยที่เหยื่ออาจไม่รู้ตัวว่ากำลังถูก “ค่อยๆ ต้ม” อย่างมีระบบ
จิตวิทยากับการตกเป็นเหยื่อ: ทำไมคนฉลาดก็ยังหลง
การสร้างความไว้วางใจด้วยภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบ
มิจฉาชีพในยุคใหม่ไม่ได้ทำตัวเหมือนโจร พวกเขานำเสนอตนเองเป็น “ผู้เชี่ยวชาญการเงิน” “ที่ปรึกษาส่วนตัว” หรือ “นักลงทุนรุ่นเยาว์ผู้ประสบความสำเร็จ” พร้อมภาพไลฟ์สไตล์หรูหรา บ้าน รถ วันหยุดพักผ่อน ทั้งหมดนี้ถูกนำมาใช้เพื่อกระตุ้น “ความปรารถนา” ของเหยื่อ และทำให้เชื่อว่า “หากฉันทำตามเขา ฉันก็จะรวยเหมือนกัน”
ใช้แรงกดดันทางจิตใจเพื่อให้ตัดสินใจเร็ว
ความลังเลคือศัตรูของการหลอกลวง ดังนั้นกลโกงโดยมากมักมาพร้อมกับ “โอกาสครั้งเดียว” หรือ “สิทธิพิเศษสำหรับ 10 ท่านแรก” การสร้างความเร่งด่วนนี้จะลดการแสดงเหตุผลของสมองส่วนหน้า แล้วปล่อยให้ความรู้สึกของ “กลัวพลาด” (FOMO) ครอบงำ นั่นคือจุดที่ผู้คนเริ่มตัดสินใจโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม
สังเกตให้ทัน: สัญญาณเตือนภัยกลโกง Forex
ตรวจสอบใบอนุญาตและผู้กำกับดูแล
โบรกเกอร์ที่ปลอดภัย ต้องมี ใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลที่น่าเชื่อถือ เช่น Financial Conduct Authority (FCA) ในสหราชอาณาจักร หรือ ASIC ในออสเตรเลีย อย่าพึ่งเชื่อว่า “เขียนไว้ในเว็บไซต์” ว่าถูกกำกับดูแล — ให้ตรวจสอบข้อมูลโดยตรงในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของหน่วยงานนั้นด้วยตนเอง
สังเกตคุณภาพของเว็บไซต์และแอป
เว็บไซต์ที่มีข้อผิดพลาดในการสะกด ดีไซน์ไม่เป็นมืออาชีพ เลขติดต่อไม่มีเบอร์จริง หรือแม้แต่ชื่อโดเมนที่เพิ่งจดไม่ถึง 6 เดือน ล้วนเป็นสัญญาณว่าอาจไม่ใช่บริษัทที่ตั้งมั่นระยะยาว สำหรับแอปพลิเคชัน ให้ดูรีวิวใน App Store หรือ Google Play — หากมีแต่รีวิว 5 ดาว และรีวิวหนาแน่นในช่วงสั้นๆ นั่นอาจถูกจ้างเขียนขึ้นก็ได้
ข้อเสนอที่ไม่ได้ขอมา และการการันตีกำไร
ถ้าคุณได้รับข้อความใน IG, LINE, หรือ Facebook จากคนที่ไม่รู้จัก แล้วชวนให้ลงทุนโดยบอกว่า “ไม่มีความเสี่ยง” “มั่นใจได้ 100%” — ให้หยุดทันที การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง การรับประกันผลลัพธ์คือคำพูดของมิจฉาชีพ
ตรวจสอบช่องทางการเงิน
โบรกเกอร์ที่ถูกต้องจะรับเงินผ่าน บัญชีธนาคารของบริษัท เท่านั้น หากมีใครขอให้คุณโอนเงินเข้าบัญชี “ส่วนตัว” หรือผ่าน คริปโทเคอร์เรนซี เพื่อรักษาความลับ โอกาสที่คุณจะสูญเงินทั้งหมดคือ 99.9%
ค้นหาประวัติและความคิดเห็น
ใช้เวลาสัก 15 นาทีเพื่อค้นหาชื่อบริษัทบน Google ร่วมกับคำว่า “รีวิว”, “ปัญหา”, “โกง” หรือ “scam” หากเจอเว็บบอร์ด เช่น Pantip หรือ Reddit ที่พูดถึงบริษัทนี้ในทางลบจำนวนมาก — ให้หลีกเลี่ยงทันที ยิ่งถ้าบริษัทไม่มีข้อมูลเลย ยิ่งอันตราย
ธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ออกแถลงเตือนภัยอย่างจริงจัง
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกคำเตือนเป็นระยะถึงการระบาดของกลโกงการลงทุนที่อ้างชื่อ Forex โดยเน้นย้ำว่าบุคคลหรือบริษัทที่ดูแลการซื้อขายแบบนี้ในประเทศไทย ต้องได้รับอนุญาตจาก ธปท. หรือ ก.ล.ต. เท่านั้น การดำเนินการร่วมกับสมาคมธนาคารไทยเพื่อระงับธุรกรรมที่ผิดปกติ และการแชร์ข้อมูลผู้ให้บริการที่น่าสงสัย แสดงให้เห็นว่าปัญหานี้รุนแรงเพียงใด การรับข้อมูลจากแหล่งทางการจึงเป็นเกราะป้องกันที่สำคัญที่สุด
ถ้าตกเป็นเหยื่อแล้ว ต้องทำอย่างไรทันที?
รวบรวมหลักฐานโดยด่วน
ทันทีที่รู้สึกว่า “ผิดปกติ” ให้รวบรวมข้อมูลทุกชิ้นให้ครบ:
- บันทึกแชท ข้อความ หรืออีเมลทั้งหมด
- สลิปการโอนเงิน หรือข้อมูลธุรกรรม
- ชื่อผู้ติดต่อ เบอร์โทร ลิงก์เว็บไซต์
- ภาพหน้าจอของพอร์ตการลงทุน หรือเงื่อนไขการถอนเงิน
ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการสืบสวน
แจ้งความทันที
ในประเทศไทย มีหน่วยงานที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ:
- ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) — โทรสายด่วน 1441
- สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) — สำหรับกรณีการลงทุนที่ผิดกฎหมาย
- ธนาคารที่คุณโอนเงิน — แจ้งเหตุทันที เพื่อพยายามอายัติเงินที่ยังไม่ถูกถอน
ขอคำปรึกษาทางกฎหมาย
หากคุณเสียเงินจำนวนมาก อาจจำเป็นต้องพูดคุยกับทนายความที่ชำนาญด้าน อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อประเมินว่ามีช่องทางในการฟ้องร้อง หรือขอคืนเงินผ่านกระบวนการทางกฎหมายได้หรือไม่ แม้โอกาสอาจน้อย แต่การมีที่ปรึกษาจะช่วยให้คุณไม่รู้สึกโดดเดี่ยวในกระบวนการนี้
วิธีเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือ
ตรวจสอบการกำกับดูแลและความโปร่งใส
นี่คือก้าวแรกที่สำคัญที่สุด โบรกเกอร์ที่ดีจะเปิดเผยชัดเจนถึงหน่วยงานที่กำกับดูแล รวมถึงมีข้อมูลอัตราค่าธรรมเนียม สเปรด และข้อกำหนดการซื้อขายในเอกสารที่เข้าถึงได้ง่าย
เงินของคุณต้องแยกจากบริษัท
โบรกเกอร์ที่ถูกกฎหมายจะใช้การ แยกบัญชีลูกค้า (Segregated Accounts) เพื่อให้เงินของคุณปลอดภัยแม้บริษัทจะล้มละลาย นี่คือระบบคุ้มครองพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับ
ใช้แพลตฟอร์มการซื้อขายมาตรฐาน
เลือกโบรกเกอร์ที่สนับสนุน MetaTrader 4 (MT4) หรือ MetaTrader 5 (MT5) เหล่านี้คือแพลตฟอร์มที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล มีฟีเจอร์ซื้อขายครบครัน และมีผู้ใช้งานจำนวนมาก แม้ไม่การันตีความปลอดภัย แต่การใช้เครื่องมือมาตรฐานจะลดความเสี่ยงจาก “แอปปลอม”
บริการลูกค้าที่เร็วและมืออาชีพ
ทดลองติดต่อพนักงานผ่านแชท หรืออีเมลตอนเลือกโบรกเกอร์ หากใช้เวลานาน หรือคำตอบไม่ชัดเจน นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าเขาพร้อมดูแลคุณเมื่อเกิดปัญหาจริงๆ หรือไม่
เช็กลิสต์ป้องกันกลโกง Forex: เตรียมตัวก่อนเริ่มต้น
- ยืนยันใบอนุญาตโดยตรง: ไปที่เว็บไซต์ของ FCA, ASIC หรือ ก.ล.ต. เพื่อยืนยันชื่อโบรกเกอร์
- ระแวงคำสัญญาที่เกินจริง: ผลตอบแทนเกิน 2–3% ต่อเดือนในตลาด Forex ถือว่าต้องใช้เลเวอเรจสูง และเสี่ยงมาก
- อ่านรีวิวจากแหล่งอิสระ: อย่าเชื่อรีวิวที่อยู่บนเว็บไซต์ของโบรกเกอร์เอง
- ตรวจสอบที่ตั้งและเบอร์ติดต่อ: โบรกเกอร์จริงมีสำนักงานจริง ไม่ใช่แค่ที่อยู่ PO Box
- ห้ามโอนเข้าบัญชีส่วนตัว: เงินต้องเข้าบัญชีบริษัทเท่านั้น
- รู้จักความเสี่ยงของตัวเอง: ลงทุนเฉพาะเมื่อเข้าใจ และเตรียมใจยอมขาดทุน
- อย่าไว้วางใจคนไม่รู้จัก: โดยเฉพาะจากโซเชียลมีเดียหรือแอปหาคู่
- ปรึกษาผู้รู้ที่ไม่มีผลประโยชน์: ขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ได้ถูกลงคะแนนจากโบรกเกอร์
- อัปเดตความรู้อยู่เสมอ: กลโกงเปลี่ยนแปลงเร็ว ต้องเปิดรับข้อมูลใหม่ทุกวัน
การลงทุนใน Forex ไม่ใช่เรื่องผิด แต่การไม่รู้เท่าทันความเสี่ยงคือต้นทางของความสูญเสียที่ย้อนกลับมาไม่ได้ ความปลอดภัยไม่ได้อยู่ที่ผลตอบแทน แต่อยู่ที่ “ระบบ” และ “วินัย” ของคุณ ด้วยความรู้ ความตระหนัก และการตรวจสอบที่ดี คุณจึงจะสามารถใช้ศักยภาพของตลาดการเงินได้โดยไม่ตกเป็นเหยื่อของความโลภที่มาในรูปแบบของ “ความหวัง”
การลงทุน Forex ในประเทศไทยถูกกฎหมายหรือไม่?
การลงทุน Forex กับโบรกเกอร์ต่างประเทศที่ไม่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลของไทย (เช่น ก.ล.ต.) ยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ โบรกเกอร์ที่ถูกกฎหมายในประเทศไทยต้องได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ฉันจะตรวจสอบได้อย่างไรว่าโบรกเกอร์ Forex ได้รับการกำกับดูแล?
คุณควรเยี่ยมชมเว็บไซต์ของหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินในประเทศที่โบรกเกอร์นั้นอ้างว่าได้รับอนุญาต (เช่น FCA ในสหราชอาณาจักร, ASIC ในออสเตรเลีย) และค้นหาชื่อโบรกเกอร์ในฐานข้อมูลของหน่วยงานนั้นๆ โดยตรง
ถ้าฉันถูกหลอกลวงให้ลงทุน Forex ฉันควรทำอย่างไรเป็นอันดับแรก?
อันดับแรก ให้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง และรายงานต่อหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย เช่น ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) โทรสายด่วน 1441 ทันที และติดต่อธนาคารที่คุณใช้ทำธุรกรรม
โบรกเกอร์ Forex ที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไร?
โบรกเกอร์ที่ดีควรได้รับการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด แยกเงินทุนของลูกค้าออกจากเงินบริษัท ใช้แพลตฟอร์มการซื้อขายมาตรฐาน เช่น MT4/MT5 มีสเปรดและค่าธรรมเนียมที่โปร่งใส และมีการบริการลูกค้าที่เป็นมืออาชีพและตอบสนองได้ดี
ฉันควรลงทุน Forex โดยใช้ “สัญญาณซื้อขาย” ที่มาจากคนแปลกหน้าหรือไม่?
ไม่ควรอย่างยิ่ง การพึ่งพาสัญญาณซื้อขายจากคนแปลกหน้าเป็นกลโกงที่พบบ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนสูงหรือรับประกันผลกำไร ควรศึกษาและตัดสินใจลงทุนด้วยตัวเอง
ความเสี่ยงหลักของการซื้อขาย Forex คืออะไร?
ความเสี่ยงหลัก ได้แก่ ความผันผวนของตลาด การใช้เลเวอเรจที่สูง (ซึ่งสามารถขยายได้ทั้งกำไรและขาดทุน) และความเสี่ยงจากการฉ้อโกง การซื้อขาย Forex ต้องใช้ความรู้และประสบการณ์
MT5 เป็นแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยหรือไม่?
MetaTrader 5 (MT5) เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายที่เป็นที่รู้จักและใช้งานอย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์ม MT5 เองไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ว่าโบรกเกอร์นั้นๆ ปลอดภัย สิ่งสำคัญคือการตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ที่ใช้ MT5 นั้นได้รับการกำกับดูแลอย่างถูกกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากมิจฉาชีพสามารถสร้างแอปพลิเคชันปลอมที่เลียนแบบ MT5 ได้