
เข้าใจตลาดคริปโตในไทย: ข้อมูลล่าสุด กฎระเบียบ และแนวโน้มปี 2025
ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็ว รัฐบาลที่มีบทบาทชัดเจน และความสนใจจากนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างชาติ ในปี 2025 ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในประเทศไทยได้รับการจัดอันดับอยู่ในลำดับต้นๆ ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยข้อมูลจาก CoinMarketCap และ CoinGecko แสดงให้เห็นว่ามีการซื้อขายโทเคนที่หลากหลาย รวมถึงสกุลเงินดิจิทัลที่มีเสถียรภาพ (Stablecoin) เช่น USDT และ USDC ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

การจัดอันดับตลาดคริปโต: ข้อมูลจากผู้นำด้านข้อมูล
สำหรับผู้ลงทุนและนักวิเคราะห์ การติดตามข้อมูลแบบเรียลไทม์เป็นสิ่งสำคัญมาก สองแพลตฟอร์มที่ได้รับความน่าเชื่อถือสูงสุดในระดับโลกคือ **CoinMarketCap** และ **CoinGecko** ทั้งสองเว็บไซต์ให้ข้อมูลแบบครอบคลุม ตั้งแต่ราคา สัดส่วนมูลค่าตลาด การซื้อขายในแต่ละวัน และรายชื่อกระดานซื้อขาย (Exchange) ที่ถูกจัดอันดับตามความน่าเชื่อถือ
ในบริบทของไทยนั้น ข้อมูลจาก CoinGecko บ่งชี้ว่ากระดานซื้อขายในประเทศ เช่น Bitkub มีปริมาณการซื้อขายต่อวันที่สูงมาก เมื่อเทียบกับปริมาณประชากร และยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ในภูมิภาค ขณะที่ CoinMarketCap ช่วยให้เห็นภาพรวมของมูลค่าตลาดคริปโตทั่วโลกที่มีผลต่อการลงทุนในไทยโดยตรง โดยเฉพาะกับการเคลื่อนไหวของ Bitcoin และ Ethereum ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของนักลงทุนไทยอย่างชัดเจน
กรอบกำกับดูแลในประเทศไทย: บทบาทของ ก.ล.ต.
หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ตลาดคริปโตในประเทศไทยเติบโตอย่างมีเสถียรภาพคือภาครัฐ โดยเฉพาะบทบาทหลักของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ได้เข้ามากำกับดูแลตลาดอย่างจริงจัง นับตั้งแต่ปี 2024 ก.ล.ต. ได้ประกาศใช้มาตรการใหม่หลายประการ เพื่อป้องกันการฟอกเงิน การฉ้อโกง และคุ้มครองผู้ลงทุน
ตามรายงานจาก Cointelegraph และ Digital Watch Observatory ระบุว่า ก.ล.ต. ได้สั่งพักใช้ใบอนุญาตจากกระดานซื้อขายที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐาน และเน้นย้ำว่าผู้ให้บริการทั้งหมดต้องลงทะเบียนและปฏิบัติตามข้อกำหนดด้าน KYC (รู้จักลูกค้าของคุณ) และ AML (การต่อต้านการฟอกเงิน) อย่างเคร่งครัด
Stablecoin ที่ได้รับอนุญาตในไทย
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี 2024 เมื่อ ก.ล.ต. ประกาศรายชื่อ Stablecoin ที่สามารถใช้งานได้อย่างถูกกฎหมายในประเทศไทย โดยมี **USDT (Tether)** และ **USDC (USD Coin)** เป็นสองตัวที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ การอนุมัตินี้ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนรายย่อย และสนับสนุนให้ภาคธุรกิจนำ Stablecoin มาใช้ในระบบการชำระเงิน
โครงการ TouristDigiPay: อนาคตของการท่องเที่ยวและคริปโต
อีกหนึ่งโครงการน่าจับตามองคือ **TouristDigiPay** — แผนความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่มุ่งพัฒนาช่องทางการชำระเงินดิจิทัลสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โครงการนี้จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโต (โดยเฉพาะ Stablecoin ที่ได้รับอนุญาต) เป็นบาทผ่านแอปพลิเคชันเฉพาะ เพื่อใช้จ่ายภายในประเทศได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านธนาคารพาณิชย์แบบดั้งเดิม

โครงการนี้อยู่ระหว่างการทดลองในพื้นที่นำร่อง เช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษอีอีซี และจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างภูเก็ตและเชียงใหม่ หากประสบความสำเร็จ คาดว่าจะขยายผลทั่วประเทศในปี 2025 และอาจกลายเป็นต้นแบบให้กับประเทศอื่นในภูมิภาค
แนวโน้มในอนาคต: คริปโตจะเข้ามาในชีวิตประจำวันของคนไทยมากขึ้นไหม?
ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ดี การสนับสนุนจากรัฐ และความสนใจจากประชาชน ทำให้แนวโน้มการใช้คริปโตในชีวิตประจำวันกำลังค่อยๆ กลายเป็นจริง ตั้งแต่การลงทุนผ่านแอปมือถือ การใช้ชำระค่าบริการในร้านค้าที่รองรับ ไปจนถึงการโอนเงินข้ามประเทศโดยไม่ต้องพึ่งระบบธนาคารแบบดั้งเดิม
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะเรื่องความผันผวนของราคา และความเข้าใจผิดของผู้บริโภคบางกลุ่ม ดังนั้น หน่วยงานภาครัฐยังคงเน้นย้ำการให้ความรู้เกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีอย่างต่อเนื่อง ผ่านแคมเปญ “ลงทุนอย่างรู้เท่าทัน” และการพัฒนาแหล่งข้อมูลกลางสำหรับประชาชนทั่วไป
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
สกุลเงินคริปโตใดที่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย?
ปัจจุบัน สกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการรับรองให้ใช้งานได้อย่างถูกกฎหมายในประเทศไทย ได้แก่ Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH), Binance Coin (BNB), Cardano (ADA), Solana (SOL) และสกุลเงินดิจิทัลที่มีเสถียรภาพอย่าง Tether (USDT) และ USD Coin (USDC) ซึ่งได้รับการอนุมัติเป็นพิเศษจาก ก.ล.ต.
ต้องเสียภาษีจากการลงทุนคริปโตหรือไม่?
ใช่ ผู้ที่ได้รับกำไรจากการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีในประเทศไทย จะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในอัตรา 15% ตามประกาศของกรมสรรพากร ทั้งนี้ ต้องรายงานรายได้ผ่านแบบแสดงรายการภาษีประจำปี และใช้หลักฐานการซื้อขายจากกระดานซื้อขายที่ได้รับใบอนุญาต
จะรู้ได้อย่างไรว่ากระดานซื้อขายใดถูกกฎหมายในไทย?
สามารถตรวจสอบรายชื่อกระดานซื้อขายที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ได้โดยตรงที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กระดานที่ถูกกฎหมายจะต้องมีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อ และแสดงหมายเลขใบอนุญาตอย่างชัดเจน
TouristDigiPay คืออะไร และจะเริ่มใช้งานเมื่อไหร่?
TouristDigiPay เป็นโครงการนำร่องเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้คริปโต (โดยเฉพาะ Stablecoin) ชำระค่าสินค้าและบริการในประเทศไทยได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลองในบางพื้นที่ และคาดว่าจะพร้อมใช้งานอย่างเต็มรูปแบบในช่วงปลายปี 2025
นักลงทุนต่างชาติสามารถซื้อขายคริปโตในไทยได้หรือไม่?
นักลงทุนต่างชาติสามารถซื้อขายคริปโตผ่านกระดานซื้อขายในประเทศไทยได้ แต่ต้องผ่านขั้นตอน KYC ที่เคร่งครัด รวมถึงการยืนยันตัวตนด้วยเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการของประเทศต้นทาง และปฏิบัติตามกฎระเบียบการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคารแห่งประเทศไทย